Carbon Credit
Carbon Credit คืออะไร ?
ในยุคที่ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง Carbon Credit (คาร์บอนเครดิต) เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การผลิตพลังงาน การคมนาคม และการผลิตอุตสาหกรรม
คาร์บอนเครดิตทำงานโดยการกำหนดมูลค่าให้กับการลดหรือชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หากองค์กรหรือบุคคลใดสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ เขาจะได้รับคาร์บอนเครดิตเป็นการชดเชย และสามารถขายเครดิตเหล่านี้ให้กับผู้ที่ต้องการเพื่อลดการปล่อยก๊าซของตนเอง
Standard T-VER คือ ?
Standard T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) คือโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้กรอบการดำเนินงานของประเทศไทย ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. (Thailand Greenhouse Gas Management Organization: TGO)
คุณสมบัติหลักของ Standard T-VER :
- การสมัครใจ: ผู้เข้าร่วมโครงการไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ แต่สามารถเข้าร่วมได้โดยสมัครใจ โดยเป้าหมายคือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- การประเมินและรับรอง: โครงการจะต้องผ่านการประเมินผลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและได้รับการรับรองจาก อบก.
- การออกเครดิต: หากโครงการสามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จริง จะได้รับการออกเครดิตคาร์บอน (Carbon Credit) ซึ่งสามารถซื้อขายในตลาดคาร์บอนได้
- ประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วม: ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำเครดิตคาร์บอนที่ได้รับไปใช้เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม หรือขายให้กับบริษัทหรือองค์กรที่ต้องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) ของตนเอง
T-VER นับว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เงื่อนไขการพัฒนาโครงการ
ผู้พัฒนาโครงการตรวจสอบว่ากิจกรรมโครงการเข้าข่ายประเภทโครงการที่ อบก. กำหนดและเป็นไปตามข้อกำหนดการขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER
การปลูกไผ่เพื่อคาร์บอนเครดิต
ไผ่เป็นพืชที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ การปลูกไผ่ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังสามารถสร้างรายได้ผ่านการขายคาร์บอนเครดิต
คุณสมบัติพิเศษของไผ่ในการดูดซับคาร์บอน :
1. การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว: ไผ่เป็นพืชที่เติบโตเร็ว โดยบางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ถึง 1 เมตรต่อวัน การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ทำให้ไผ่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากเมื่อเปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่น
2. การฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม: การปลูกไผ่ในพื้นที่ที่ดินถูกทำลายหรือเสื่อมโทรม สามารถช่วยฟื้นฟูดินและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
3. การดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์: ไผ่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 1.5 ตันต่อเฮกตาร์ต่อปี ซึ่งสูงกว่าพืชป่าทั่วไป
ข้อสรุป
การปลูกไผ่เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ พร้อมกับสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต โครงการปลูกไผ่ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ไผ่กลายเป็นพืชที่มีศักยภาพสูงในยุคของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเข้าร่วมโครงการปลูกไผ่เพื่อคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในวิธีที่องค์กรและบุคคลทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับโลกใบนี้.